วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เริ่มเรียนทำเบเกอรี่ กับ 4 ชนิดขนมปังที่ต้องเรียนรู้

ทุกๆท่านรู้หรือไม่ว่าขนมปังที่เราชื่นชอบกันอยู่นั้นมีกี่ประเภทและแต่ละชนิดมีความต่างกันอย่างไร วันนี้โรงเรียนสอนทำเบเกอรี่ครูอ้วน จะแนะนำให้รู้จักเกี่ยวกับขนมปังแต่ละชนิดกันมากขึ้น ว่าแท้จริงแล้วขนมปังมีอยู่กี่ชนิดและแต่ละชนิดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างเรามาทำความรู้จักและเริ่มเรียนทำเบเกอรี่กันได้เลย



เริ่มจากชนิดของขนมปัง สำหรับชนิดขนมปังนั้นสามารถจำแนกได้ตามปริมาณของน้ำตาลและไขมันที่อยู่ในขนมปัง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ

  1. ขนมปังผิวแข็ง (Hard Bread) โดยขนมปังผิวแข็งหรือHard Bread ทั่วๆไปแล้วจะมีปริมาณของน้ำตาลอยู่ที่ 0-2% และมีไขมันต่ำเพียงแค่0-3% จึงทำให้เนื้อขนมปังชนิดนี้จะมีเนื้อที่ได้มีความชุ่มชื้นน้อยและมีผิวด้านนอกแข็ง ยกตัวอย่างเช่น บาแก็ต หรือที่เราเรียกกันว่าขนมปังฝรั่งเศส เป็นต้น “นั่นแน่” เริ่มเรียนทำเบเกอรี่ กับขนมปังชนิดแรกไปแล้ว เรามาดูชนิดต่อไปกันครับ
  2. ขนมปังจืด (Loaf Bread) ส่วนขนมปังจืดหรือLoaf Bread ทั่วไปจะมีปริมาณของน้ำตาลอยู่ที่ 4-8 เปอร์เซ็นต์มีปริมาณไขมันอยู่ที่ ร้อยละ 3-6ยกตัวอย่างขนมปังแบบชนิดขนมปังจืดที่เรารู้จักกันดีอาทิเช่นขนมปังแซนวิช ขนมปังหัวกระโหลก เป็นต้น ขนมปังชนิดนี้จัดอยู่ในระดับง่ายเหมาะมากสำหรับผู้ที่เพิ่งจะ “เริ่มเรียนทำเบเกอรี่”

 

  1. ขนมปังกึ่งหวาน (Soft bun) สำหรับขนมปังกึ่งหวานหรือSoft bun นั้นจะมีปริมาณของน้ำตาล มากถึง 10-14%มีปริมาณไขมันอยู่ที่ ร้อยละ 8-12 ทำให้เนื้อของขนมปังชนิดนี้จะมีลักษณะของเนื้อขนมปังที่ยืดหยุ่นหรืออาจจะมีไส้ด้วยก็เหมาะกันดียกตัวอย่างขนมปังชนิดนี้เช่น ขนมปังแฮมเบอเกอร์ ขนมปังฮอทดอก เป็นต้น ขนมปังชนิดนี้เป็นที่ต้องการอย่างแพร่หลาย หากเรียนทำเบเกอรี่ชนิดนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
  2. ขนมปังหวาน (Sweet Dough) ขนมปังชนิดสุดท้ายอย่างขนมปังหวานหรือSweet Dough โดยทั่วไปจะมีปริมาณของน้ำตาลสูงถึง 16-22%และจะมีปริมาณของไขมันอยู่ที่ 12-24 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

สำหรับในส่วนของส่วนผสมขนมปังนั้น จะแบ่งส่วนผสมหลักๆที่ใช้ในการทำขนมปังออกเป็น 2 ส่วนคือ
1.ส่วนผสมที่เป็นส่วนประกอบ|ใหญ่ๆของขนมปังอย่างเช่น แป้งสาลี ยีสต์ น้ำ และ เกลือ
2.ส่วนผสมอื่นๆ จะขึ้นอยู่กับชนิดและลักษณะของขนมปังที่เราต้องการ เช่น น้ำตาล เนย นม ไข่ไก่ ผลไม้ โกโก้ เป็นต้น
โดยขนมปังที่อบจนสุกแล้วต้องเอาออกจากแม่พิมพ์หรือถาดอบ ก่อนจะวางทิ้งไว้บนตระแกรงเพื่อไม่ให้ก้นขนมปังแฉะ นอกจากนี้ต้องระวังเรื่องการใช้ยีสต์ไม่ควรที่จะใช้ยีสต์น้อยเกินไปหรือมากเกินไป รวมกระทั่งยีสต์ที่เอามาใช้ก็ไม่ควรนำเอายีสต์ที่เสื่อมคุณภาพแล้วมาใช้ ในส่วนของวิธีการการนวดแป้งเองก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน โดยไม่ควรนวดแป้งน้อยเกินไปหรือมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่สำคัญอีกมากเช่น แม่พิมพ์ที่ใช้ไม่ควรเลือกแม่พิมพ์ที่ใหญ่เกินไป และพยายามอย่าใช้อุณหภูมิที่ใช้อบสูงเกินไป เป็นต้น นอกนั้นยังไม่พอขนมปังยังมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้เราได้แสะหาความรู้และฝึกฝนอีกมาก หากผู้ใดใคร่ที่จะเริ่มเรียนทำเบเกอรี่แต่ยังไม่กล่าหรือกลัวว่าจะทำไม่ได้ จงบอกตัวเองว่า“อย่ากลัวที่จะเรียนรู้”

ฉะนั้นแล้วผู้ที่สนใจเกี่ยวกับขนมปัง หรือต้องการเรียนทำขนมปัง ควรที่จะฝึกฝนอยู่ทุกๆวัน และหัดเรียนทำเบเกอรี่ชนิดต่างๆเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนำเอาข้อบกพร้องที่พบมาปรับปรุง ซึ่งไม่นานก็จะสามารถพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สอนทำเค้ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น