วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

3 เค้กหลักที่อยากให้สัมผัส ก่อนเรียนทำเบเกอรี่

เค้กที่น่าจะรู้จัก ก่อนเรียนทำเบเกอรี่

 

ก่อนเรียนทำเบเกอรี่เราน่าจะมาทำความรู้จักกับคำว่า ‘เค้ก’ กันก่อนเลย คำว่าเค้ก(Cake)นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวไวกิ้งคือคำว่า “kaka” โดยเริ่มจากปี1843 นักเคมีชาวอังกฤษที่ได้วิจัย“ผงฟู” หรือ“baking powder” ขึ้นมา จนทำให้สามารถทำขนมปังที่ขึ้นฟูโดยไม่มียีสต์ได้เป็นครั้งแรก โดยในปัจจุบันเค้กมีเนื้อเค้กชนิดต่างๆที่คล้ายคลึงกัน แต่เราสามารถแบ่งชนิดของเนื้อเค้กที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ออกได้เป็น 3 ชนิดหลักๆนั่นก็คือ

 

1.เค้กเนยหรือบัตเตอร์เค้ก (Butter Cake)
โดยทั่วไปแล้วเนื้อเค้กชนิดนี้จะมีคุณลักษณะของเนื้อเค้กที่แน่นที่สุดจากเนื้อเค้กทั้งหมด 3 ชนิดที่เกริ่นไว้ เพราะเค้กเนยหรือบัตเตอร์เค้กมีองค์ประกอบของเนยเป็นหลัก เพราะเหตุนั้นจึงทำให้มีอากาศภายในเนื้อเค้กน้อย เลยทำให้เค้กเนยมีเนื้อเค้กที่ละเอียดและมีเนื้อแน่นไปจนถึงมีน้ำหนักสูงกว่าเค้กชนิดอื่นๆ สำหรับเค้กเนยหรือบัตเตอร์เค้กมีวิธีผลิตโดยปกติเริ่มจากการตีเนยกับน้ำตาลให้ขึ้นฟูก่อนจะใส่ไข่ลงไปตีด้วยกันแล้วจึงใส่แป้งซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เหลือลงไป และที่พิเศษไปกว่านั้นเค้กเนยเป็นเค้กที่มีขั้นตอนในการทำไม่ยาก เหมาะกับการหัดเรียนทำเบเกอรี่เป็นอย่างยิ่ง

 

2.สปันจ์เค้ก (Sponge Cake)
โดยสปันจ์เค้กนั้นเป็นหนึ่งในเค้กชนิดหลักอย่างเค้กไข่ (Foam cake) ซึ่งจะมีความแน่นของเนื้อเค้กเป็นเนื้อที่เบากว่าบัตเตอร์เค้กแต่หนักกว่าชิฟฟ่อนเค้ก โดยปกติแล้วจะนำมาแต่งหน้าด้วยครีมสดหรืออื่นๆ โดยส่วนใหญ่จะแบ่งเค้กเป็นชั้นๆแต่ก็มีหลายคนนิยมเอาไปทำเป็นแยมโรลไส้ต่างๆด้วยเช่นกัน สำหรับขั้นตอนการทำสปันจ์เค้กจะมุ้งเน้นเรื่องการตีไข่แดงและไข่ขาวให้ขึ้นฟู โดยขั้นตอนการทำสทำสปันจ์เค้กจะเริ่มจากการตีไข่และน้ำตาลจนขึ้นฟู แล้วจึงเติมส่วนผสมที่เป็นแป้งลงไป ก่อนจะผสมเนยที่ละลายแล้ว โดยทั่วไปแล้วการเรียนทำเบเกอรี่มักจะใช้เค้กชนิดนี้ มาเป็นเค้กหลักในการสอนเพราะเป็นเค้กที่ทำได้ง่ายและมีความผิดพลาดน้อย จึงเป็นตัวผลักดันแรงบันดาลใจให้ผู้หัดทำเค้กเป็นอย่างดี

 

3.ชิฟฟ่อนเค้ก (Chiffon Cake)
ชิฟฟ่อนเค้กเป็นเนื้อเค้กที่นุ่มนิ่มที่สุดในเค้กทั้ง 3 ชนิด และนิยมนำไปแต่งหน้าด้วยครีมสด และช็อกโกแลตฟัดจ์หรือครีมอื่นๆแต่ด้วยตัวชิฟฟ่อนเค้กนั้นมีลักษณะของเนื้อเค้กที่ค่อนข้างจะเบามาก จึงทำให้ตัวเนื้อเค้กไม่สามารถที่จะรับน้ำหนักของหน้าเค้กที่หนักเกินไปได้ ฉะนั้นถ้าจะเลือกชิฟฟ่อนเค้กมาใช้แต่งหน้าแล้วหล่ะก็ ควรคัดสรรค์และเลือกใช้ของแต่งหน้าที่มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่ขั้นตอนในการทำชิฟฟ่อนเค้กนั้นจะมีจุดที่แตกต่างจากเค้กชนิดอื่นอย่างเห็นได้ชัด คือการแยกไข่แดงและไข่ขาว ส่วนมากจะมี}หลักในการที่เริ่มจากการคนไข่แดง กับแป้ง ผงฟู น้ำตาล น้ำมันพืช และองค์ประกอบอื่นๆรวมไว้ด้วยกัน ก่อนที่จะคนไข่ขาวกับน้ำตาลและครีมออฟทาทาร์ให้ตั้งยอด แล้วจึงนำเอาส่วนประกอบทั้งไข่แดงและไข่ขาวมาทำการคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง ชิฟฟ่อนเค้กนี้ถือว่ามีขั้นตอนในการทำที่ยากที่สุดจากเค้กที่พูดไว้ หากคิดที่จะเริ่มเรียนทำเบเกอรี่จากเค้กชนิดนี้ แนะนำให้ดูตามสูตรอย่างถี่ถ้วน

 

มาถึงตอนนี้สาวกเค้กคงจะได้รู้จักวิธีการพอสังเขปและจุดแตกต่างระหว่างเนื้อเค้กแต่ละชนิดกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเรียนทำเบเกอรี่ การลงมือฝึกฝนและทดลองอบขนมเค้กที่คุณชื่นชอบ ถือเป็นขั้นตอนต่อไปที่ทุกคนจะต้องขวนขวายและฝึกฝนด้วยตัวเอง เพราะถ้าหากเราไม่ฝึกฝนก็จะไม่สามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจ ลองเลือกชนิดของเค้กที่สนใจจะทำ แล้วไปลงมือทำเค้กกันเลยดีกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น